1. ปก
2. ปกนอก
3. กระดาษรองปก
4. ปกในภาษาไทย
5. ปกในภาษาอังกฤษ
6. ใบรับรองวิทยานิพนธ์ (กรรมการสอบลงชื่อ)
7. บทคัดย่อภาษาไทย
8. บทคัดย่อภาษาอังกฤษ
9. กิตติกรรมประกาศ
10. สารบัญ
11. สารบัญตาราง (ถ้ามี)
12. สารบัญภาพ (ถ้ามี)
13. วรรณกรรมหรือเนื้อเรื่อง
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 2 วรรณกรรมและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3 วิธีการวิจัย
บทที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
14. บรรณานุกรม
15. ภาคผนวก
16. ประวัติผู้วิจัย
หมายเหตุ ให้ใช้อักษรโรมันกำกับเลขหน้าตั้งแต่หน้าบทคัดย่อภาษาไทยถึงหน้าสารบัญและให้ใช้เลขอารบิคกำกับเลขหน้าตั้งแต่หน้าบทที่ 1 ถึงหน้าประวัติผู้วิจัย
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
สัญลักษณ์ที่ใช้บ่อยในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ
N แทน จำนวนคนในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด
n แทน จำนวนคนในกลุ่มตัวอย่างย่อย
X แทน ผลรวมทั้งหมดของคะแนนดิบชุด X
X แทน ค่าเฉลี่ยของคะแนนดิบชุด X
Y แทน ผลรวมทั้งหมดของคะแนนดิบชุด Y
Y แทน ค่าเฉลี่ยของคะแนนดิบชุด Y
SD แทน ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
r แทน ค่าสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
R แทน ค่าสหสัมพันธ์พหุคูณ
df แทน ชั้นของความเป็นอิสระ
MS แทน ค่าความแปรปรวน
SS แทน ผลรวมของคะแนนเบี่ยงเบนแต่ละตัวยกกำลังสอง
t แทน ค่าคำนวณจากการทดสอบที (t test)
F แทน ค่าคำนวณจากการวิเคราะห์ความแปรปรวน (Fisher’s F ratio)
แทน ค่าคำนวณจากการทดสอบไค-สแควร์ (chi-square test)
p แทน ค่าความน่าจะเป็น
* แทน นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
** แทน นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
n แทน จำนวนคนในกลุ่มตัวอย่างย่อย
X แทน ผลรวมทั้งหมดของคะแนนดิบชุด X
X แทน ค่าเฉลี่ยของคะแนนดิบชุด X
Y แทน ผลรวมทั้งหมดของคะแนนดิบชุด Y
Y แทน ค่าเฉลี่ยของคะแนนดิบชุด Y
SD แทน ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
r แทน ค่าสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
R แทน ค่าสหสัมพันธ์พหุคูณ
df แทน ชั้นของความเป็นอิสระ
MS แทน ค่าความแปรปรวน
SS แทน ผลรวมของคะแนนเบี่ยงเบนแต่ละตัวยกกำลังสอง
t แทน ค่าคำนวณจากการทดสอบที (t test)
F แทน ค่าคำนวณจากการวิเคราะห์ความแปรปรวน (Fisher’s F ratio)
แทน ค่าคำนวณจากการทดสอบไค-สแควร์ (chi-square test)
p แทน ค่าความน่าจะเป็น
* แทน นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
** แทน นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ขั้นตอนการทำการค้นคว้าอิสระ
สรุปขั้นตอนย่อๆ ได้พอสังเขปดังนี้
1. นักศึกษาจะต้องสมัครใจที่จะเรียนแผน ข. ที่จะไม่ทำวิทยานิพนธ์ แต่จะต้องมีการศึกษา
ค้นคว้าเฉพาะด้าน เฉพาะอย่างซึ่งเรียกต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร คือสารนิพนธ์ การค้นคว้าอิสระ แทน
2. เมื่อใกล้จะจบ Course Work นักศึกษาจะต้องคิดหาหัวข้อเพื่อทำโครงการเสนอทำการ
ศึกษาค้นคว้าตามข้อ 1 แล้วจึงหาอาจารย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง เพื่อเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระและควบคุมการศึกษาค้นคว้า ซึ่งอาจมีอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระร่วมได้ หรือจะหารือกับอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระแล้วจึงร่วมกันคิดหัวข้อเรื่องทำการศึกษาค้นคว้าก็ได้
3. ทำหัวข้อและโครงการศึกษาค้นคว้าเสนอให้กรรมการพิจารณาโดยบัณฑิตวิทยาลัยจะแต่งตั้ง
กรรมการวิชาการประจำหลักสูตรพิจารณาอนุมัติหัวข้อและโครงการศึกษาค้นคว้านั้น
4. เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว นักศึกษาก็จะเริ่มดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามขั้นตอนที่คณะกรรมการ
อนุมัติได้
5. เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ต้องนำมาวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติต่างๆ ที่เหมาะสม หรือด้วยวิธีการที่
เหมาะสมตามลักษณะของเรื่องที่ศึกษาแต่ละเรื่อง แล้วสรุปผลการค้นพบ แล้วอภิปรายผลพร้อมให้ข้อเสนอแนะการนำผลการศึกษาไปใช้ประโยชน์
6. เมื่อผ่านการตรวจ และการดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระ และเห็นว่ามีความ
สมบูรณ์ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์และรูปแบบแล้ว จึงอนุญาตให้ขอสอบปากเปล่า (oral examination) สำหรับหลักสูตรที่ต้องสอบต่อไป
7. หากนักศึกษาสอบปากเปล่าได้เป็นที่น่าพอใจของคณะกรรมการเป็นเอกฉันท์และแก้ไข
รวมเย็บเล่มเข้าปกเรียบร้อยแล้วจึงอนุมัติการสำเร็จการศึกษาได้
8. นักศึกษาส่งการค้นคว้าอิสระฉบับสมบูรณ์ที่เข้าปกเย็บเล่มแล้วจำนวน 5 เล่ม บทคัดย่อภาษาไทยจำนวน 5 ชุด รวมทั้งแผ่น Diskette บทคัดย่อภาษาไทย 1 แผ่น ให้แก่บัณฑิตวิทยาลัย
1. นักศึกษาจะต้องสมัครใจที่จะเรียนแผน ข. ที่จะไม่ทำวิทยานิพนธ์ แต่จะต้องมีการศึกษา
ค้นคว้าเฉพาะด้าน เฉพาะอย่างซึ่งเรียกต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร คือสารนิพนธ์ การค้นคว้าอิสระ แทน
2. เมื่อใกล้จะจบ Course Work นักศึกษาจะต้องคิดหาหัวข้อเพื่อทำโครงการเสนอทำการ
ศึกษาค้นคว้าตามข้อ 1 แล้วจึงหาอาจารย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง เพื่อเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระและควบคุมการศึกษาค้นคว้า ซึ่งอาจมีอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระร่วมได้ หรือจะหารือกับอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระแล้วจึงร่วมกันคิดหัวข้อเรื่องทำการศึกษาค้นคว้าก็ได้
3. ทำหัวข้อและโครงการศึกษาค้นคว้าเสนอให้กรรมการพิจารณาโดยบัณฑิตวิทยาลัยจะแต่งตั้ง
กรรมการวิชาการประจำหลักสูตรพิจารณาอนุมัติหัวข้อและโครงการศึกษาค้นคว้านั้น
4. เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว นักศึกษาก็จะเริ่มดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามขั้นตอนที่คณะกรรมการ
อนุมัติได้
5. เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ต้องนำมาวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติต่างๆ ที่เหมาะสม หรือด้วยวิธีการที่
เหมาะสมตามลักษณะของเรื่องที่ศึกษาแต่ละเรื่อง แล้วสรุปผลการค้นพบ แล้วอภิปรายผลพร้อมให้ข้อเสนอแนะการนำผลการศึกษาไปใช้ประโยชน์
6. เมื่อผ่านการตรวจ และการดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้าอิสระ และเห็นว่ามีความ
สมบูรณ์ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์และรูปแบบแล้ว จึงอนุญาตให้ขอสอบปากเปล่า (oral examination) สำหรับหลักสูตรที่ต้องสอบต่อไป
7. หากนักศึกษาสอบปากเปล่าได้เป็นที่น่าพอใจของคณะกรรมการเป็นเอกฉันท์และแก้ไข
รวมเย็บเล่มเข้าปกเรียบร้อยแล้วจึงอนุมัติการสำเร็จการศึกษาได้
8. นักศึกษาส่งการค้นคว้าอิสระฉบับสมบูรณ์ที่เข้าปกเย็บเล่มแล้วจำนวน 5 เล่ม บทคัดย่อภาษาไทยจำนวน 5 ชุด รวมทั้งแผ่น Diskette บทคัดย่อภาษาไทย 1 แผ่น ให้แก่บัณฑิตวิทยาลัย
ขั้นตอนการทำสารนิพนธ์ (สำหรับนักศึกษาแผน ข.)
ขั้นตอนการทำสารนิพนธ์ (สำหรับนักศึกษาแผน ข.)
1. นักศึกษาลงทะเบียนและสอบผ่านวิชา “ระเบียบวิธีวิจัย” และวิชาบังคับอื่นๆ ไม่น้อยกว่า
12 หน่วยกิต โดยได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 3.00
2. ลงทะเบียนวิชา สารนิพนธ์ 6 หน่วยกิต
3. นักศึกษาเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์จากอาจารย์ประจำ หรือ อาจารย์พิเศษ หรือ
ผู้ทรงคุณวุฒิที่บัณฑิตวิทยาลัยประกาศรายชื่อเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์
4. นักศึกษายื่นคำร้องขออนุมัติแต่งตั้ง อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) ผ่านผู้อำนวยการหลักสูตร
5. บัณฑิตวิทยาลัยดำเนินการแต่งตั้งอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์
ร่วม (ถ้ามี) พร้อมทั้งส่งสำเนาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ
6. นักศึกษาส่งหัวข้อและโครงร่างสารนิพนธ์ พร้อมทั้งแผนการศึกษาให้กับอาจารย์ที่ปรึกษา
สารนิพนธ์ อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) และบัณฑิตวิทยาลัยเพื่อขออนุมัติ เมื่ออนุมัติแล้วจึงเริ่มทำสารนิพนธ์ภายใต้การแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) ระหว่างนี้นักศึกษาควรทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อช่วยตรวจสอบแบบสอบถาม
7. นักศึกษายื่นคำร้องขอหนังสือเชิญผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อช่วยตรวจสอบแบบสอบถาม
8. นักศึกษายื่นคำร้องขอหนังสือถึงหัวหน้าหน่วยงานที่นักศึกษาจะไปเก็บข้อมูล พร้อมทั้งขอ
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
9. บัณฑิตวิทยาลัยออกหนังสือให้แก่นักศึกษาตามที่ขอเพื่อดำเนินการยื่นหนังสือและเก็บข้อมูล
จากหน่วยงาน
10. นักศึกษาประมวลความรู้ วิเคราะห์ สรุปผลการศึกษา ภายใต้การแนะนำของอาจารย์ที่
ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี)
11. นักศึกษาเรียบเรียงสารนิพนธ์ ตามรูปแบบที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนดให้เสร็จสมบูรณ์
12. นักศึกษาเขียนคำร้องขอสอบสารนิพนธ์ และนำคำร้องนี้ไปขอความเห็นชอบจากอาจารย์ที่
ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี)
13. นักศึกษายื่นคำร้องพร้อมสำเนาสารนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ จำนวน 3 - 5 เล่ม ต่อบัณฑิต
วิทยาลัย
14. ผู้อำนวยการหลักสูตร และ / หรือ บัณฑิตวิทยาลัยดำเนินการแต่งตั้งประธานกรรมการสอบ
สารนิพนธ์ และกรรมการร่วมไม่น้อยกว่า 3 คน และไม่เกิน 5 คน และกำหนดวันสอบ พร้อมทั้งส่งสำเนาให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
15. นักศึกษาเข้าสอบสารนิพนธ์ตามวันที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนด
16. นักศึกษาทำการแก้ไขสารนิพนธ์ตามมติคณะกรรมการสอบสารนิพนธ์ ภายใต้การแนะนำ
ของอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับจากวันที่สอบสารนิพนธ์ มิฉะนั้นจะถือว่าสอบไม่ผ่าน และให้นักศึกษาส่งสารนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ ให้บัณฑิตวิทยาลัยตรวจสอบความเรียบร้อยของรูปเล่มทั้งหมด
17. เมื่อบัณฑิตวิทยาลัยตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว ให้นักศึกษานำสารนิพนธ์ไปเข้าปกเย็บ
เล่มได้
18. นักศึกษาส่งสารนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ที่เข้าปกเย็บเล่มแล้วจำนวน 5 เล่ม บทคัดย่อภาษาไทย
และภาษาอังกฤษจำนวน 5 ชุด รวมทั้ง Diskette บทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 1 แผ่นให้แก่บัณฑิตวิทยาลัย
หมายเหตุ เพื่อให้การศึกษาของนักศึกษาเป็นไปตามแผนการศึกษาและจบภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้นักศึกษาดำเนินการเริ่มทำสารนิพนธ์แต่เนิ่นๆ
1. นักศึกษาลงทะเบียนและสอบผ่านวิชา “ระเบียบวิธีวิจัย” และวิชาบังคับอื่นๆ ไม่น้อยกว่า
12 หน่วยกิต โดยได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 3.00
2. ลงทะเบียนวิชา สารนิพนธ์ 6 หน่วยกิต
3. นักศึกษาเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์จากอาจารย์ประจำ หรือ อาจารย์พิเศษ หรือ
ผู้ทรงคุณวุฒิที่บัณฑิตวิทยาลัยประกาศรายชื่อเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์
4. นักศึกษายื่นคำร้องขออนุมัติแต่งตั้ง อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) ผ่านผู้อำนวยการหลักสูตร
5. บัณฑิตวิทยาลัยดำเนินการแต่งตั้งอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์
ร่วม (ถ้ามี) พร้อมทั้งส่งสำเนาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ
6. นักศึกษาส่งหัวข้อและโครงร่างสารนิพนธ์ พร้อมทั้งแผนการศึกษาให้กับอาจารย์ที่ปรึกษา
สารนิพนธ์ อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) และบัณฑิตวิทยาลัยเพื่อขออนุมัติ เมื่ออนุมัติแล้วจึงเริ่มทำสารนิพนธ์ภายใต้การแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) ระหว่างนี้นักศึกษาควรทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อช่วยตรวจสอบแบบสอบถาม
7. นักศึกษายื่นคำร้องขอหนังสือเชิญผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อช่วยตรวจสอบแบบสอบถาม
8. นักศึกษายื่นคำร้องขอหนังสือถึงหัวหน้าหน่วยงานที่นักศึกษาจะไปเก็บข้อมูล พร้อมทั้งขอ
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
9. บัณฑิตวิทยาลัยออกหนังสือให้แก่นักศึกษาตามที่ขอเพื่อดำเนินการยื่นหนังสือและเก็บข้อมูล
จากหน่วยงาน
10. นักศึกษาประมวลความรู้ วิเคราะห์ สรุปผลการศึกษา ภายใต้การแนะนำของอาจารย์ที่
ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี)
11. นักศึกษาเรียบเรียงสารนิพนธ์ ตามรูปแบบที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนดให้เสร็จสมบูรณ์
12. นักศึกษาเขียนคำร้องขอสอบสารนิพนธ์ และนำคำร้องนี้ไปขอความเห็นชอบจากอาจารย์ที่
ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี)
13. นักศึกษายื่นคำร้องพร้อมสำเนาสารนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ จำนวน 3 - 5 เล่ม ต่อบัณฑิต
วิทยาลัย
14. ผู้อำนวยการหลักสูตร และ / หรือ บัณฑิตวิทยาลัยดำเนินการแต่งตั้งประธานกรรมการสอบ
สารนิพนธ์ และกรรมการร่วมไม่น้อยกว่า 3 คน และไม่เกิน 5 คน และกำหนดวันสอบ พร้อมทั้งส่งสำเนาให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
15. นักศึกษาเข้าสอบสารนิพนธ์ตามวันที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนด
16. นักศึกษาทำการแก้ไขสารนิพนธ์ตามมติคณะกรรมการสอบสารนิพนธ์ ภายใต้การแนะนำ
ของอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับจากวันที่สอบสารนิพนธ์ มิฉะนั้นจะถือว่าสอบไม่ผ่าน และให้นักศึกษาส่งสารนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ ให้บัณฑิตวิทยาลัยตรวจสอบความเรียบร้อยของรูปเล่มทั้งหมด
17. เมื่อบัณฑิตวิทยาลัยตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว ให้นักศึกษานำสารนิพนธ์ไปเข้าปกเย็บ
เล่มได้
18. นักศึกษาส่งสารนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ที่เข้าปกเย็บเล่มแล้วจำนวน 5 เล่ม บทคัดย่อภาษาไทย
และภาษาอังกฤษจำนวน 5 ชุด รวมทั้ง Diskette บทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 1 แผ่นให้แก่บัณฑิตวิทยาลัย
หมายเหตุ เพื่อให้การศึกษาของนักศึกษาเป็นไปตามแผนการศึกษาและจบภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้นักศึกษาดำเนินการเริ่มทำสารนิพนธ์แต่เนิ่นๆ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)